[CR] Keow's Table จากเมนูของครอบครัวสู่เชฟเทเบิ้ลที่เปิดบ้านจองข้ามปี


"เมนูไหนก็ไม่ถูกใจเท่าเมนูที่บ้านเรา" ประโยคนี้จริงยิ่งกว่าจริง เพราะรสไหนก็ไม่รู้ใจเท่ารสมือของคนที่บ้าน  หวานนิดๆเผ็ดหน่อยๆ ให้คนอื่นกะเท่าไหร่ก็ไม่พอดีเหมือนคนที่บ้านทำให้ทาน ด้วยความรักในรสชาติของอาหารที่บ้าน เลยนำมาสู่มื้ออาหารสุดพิเศษในวันนี้ในสไตล์เชฟเทเบิ้ล ที่มีเชฟติ๊กและครอบครัว เป็นผู้ถ่ายทอดความรักจากเมนูอาหารที่บ้าน สู่ความอร่อยที่แขกผู้มาเยือนจะได้ลิ้มรสกัน


ก่อนจะเข้าสู่บ้านของเชฟติ๊กที่เปิดต้อนรับแขกที่จองคิวทานอาหารมื้อนี้ ก็ต้องเล่ากันก่อนว่า กว่าจะมาเป็นอาหารมื้อสุดพิเศษ ที่ภูมิใจนำเสนอภายในบ้านของเชฟติ๊กเองนั้น เชฟติ๊กและครอบครัว ได้หยิบยกนำสูตรอาหารที่คุณพ่อคุณแม่ชอบทำและชอบทาน ถ่ายทอดมาสู่ลูกที่รักการทำอาหาร และบินไปเรียนรู้วิชาอาหารมาอย่างมากมาย จนสุดท้ายลงตัวอย่างที่สุดกับมื้อนี้แบบเชฟเทเบิ้ล ที่เมนูอาจคุ้นหู แต่รสชาติและหน้าตา ใหม่ซะจนเราก็แอบว้าวเลยล่ะค่ะ


หลังจากเราทราบการเปิดจองของ Keow's Table ที่เป็นการตั้งชื่อมาจากชื่อของคุณพ่อที่พ่วงด้วยความหมายไทยๆที่สื่อถึงการทานอาหาร เมื่อเราได้ทราบแล้วก็ทำการจองไปยังเพจและขอคิวที่เร็วที่สุด และในภาพนี้คือบรรยากาศของบ้านเชฟติ๊กที่มีกลิ่นอายการตกแต่ง จากรุ่นสู่รุ่น ผ่านของสะสมที่เอ่ยถึงชิ้นไหน ก็มีเรื่องเล่าทุกชิ้น


ทั้งของสวยงาม และของที่อยู่กับเรามาทุกช่วงเวลา แบบนี้ก็มีให้เห็นในมุมน่ารัก (อร่อยและหยิบทานได้เรื่อยๆ)


และสำหรับภาพนี้ ถ้าเปิดให้คุณพ่อคุณแม่ของเราดู ท่านอาจจะรู้จักเลยก็ได้ ในภาพนี้คือคุณภาสวรรณ โลหชิตรานนท์ (พหุลรัตน์) รองนางสาวไทยปี 2509 ซึ่งเป็นคุณแม่ของเชฟติ๊ก หนึ่งในผู้ร่วมสร้างสรรค์อาหารมื้อพิเศษในวันนี้เลยค่ะ


ภาพถ้วยรางวัลรองชนะเลิศนางสาวไทย ปี 2509 สวยงามและทรงคุณค่า


เกิดไม่ทัน แต่ได้มายลโฉมใกล้ๆ 


คุณแม่ของเชฟติ๊ก ท่านน่ารักมากค่ะ วันนั้นพูดคุยกันสนุกสนานและมีรอยยิ้มกลับมาแบบอบอุ่นจริงๆ : )


และนี่คือห้องทานอาหารในมื้อนี้ ที่เราจะได้ทานกันที่บ้านเชฟติ๊กค่ะ 


เชฟบอกว่า ให้ทานได้อย่างสบาย ไม่ต้องกลัวว่าจะหยิบจับอะไรผิด ให้คิดว่าเรามาทานอาหารที่บ้านเพื่อนเรา อยากให้สบายที่สุด ไม่ต้องเกร็ง


สำหรับเมนูในวันนี้ ถ้าอ่านชื่อ อาจจะดูคุ้นๆกันอยู่บ้าง แต่พอได้เห็นหน้าตาและได้ทาน รับรองว่า จะประทับใจในความตั้งใจ


ถ้าไม่ทานวัตถุดิบอะไร รีเควสเชฟล่วงหน้าได้เลยนะคะ


เมนูที่เราจะได้ทานในวันนี้ ในส่วนของที่มาของแต่ละเมนู เชฟจะเป็นคนถ่ายทอดให้เราฟังค่ะ ว่ามีที่มาอย่างไร **ตรงนี้ขออนุญาตไม่สปอยนะคะ


เริ่มที่เมนูแรกก็กระตุ้นต่อมน้ำลายได้พรั่งพรูเลยล่ะค่ะ หอมนวลลิ้นกลิ่นขึ้นจมูก


จากเมนูคุ้นหู สู่เมนูที่ถูกตีความใหม่ ให้ดูน่าสนใจ และในส่วนของรสชาตินั้น อร่อยและมาแบบต้นตำรับ


ในแต่ละเมนู เชฟติ๊ก คุณพ่อและคุณแม่ จะเป็นผู้ไปเลือกซื้อวัตถุดิบที่ดีที่สุด ในการพรีเซ้นท์แต่ละจานนั้น ด้วยความอาร์ทติสเป็นทุนเดิมของเชฟ จึงเพิ่มสีสันได้น่าสนใจ / เมนูนี้ปูเน้นๆและที่ซ่อนอยู่ในนั้นรสชาติพอดีมากแบบต้องทานในครั้งเดียว


จะพูดว่าอร่อยในทุกภาพ ก็อาจจะซ้ำไปซ้ำมา เพราะอร่อยมากจริงๆ อย่างตัวซอสตัวนี้ที่เป็นซอสเอ็กซ์โอ ที่อร่อยจนอยากให้ทำซอสขายยย 555


นี่คือความธรรมดาที่พาเราตื่นเต้นในรสชาติที่สุด ใครจะไปรู้ว่าต้มรากบัวหน้าตาที่คุ้นๆกัน จะเป็นตัวปลุกรสชาติใหม่ๆได้


มีร้านอาหารไม่กี่ที่ ที่จะทำให้เราคิดถึงคนที่บ้าน คิดถึงตอนเราเด็กๆ คิดถึงครอบครัว เมนูนี้ก็ทำให้เรานึกถึงเช่นกัน


นี่คือเมนูที่เราชอบอย่างสุดหัวใจ ขณะพิมพ์อยู่นี้ก็กลืนน้ำลายไปหลายรอบ ยังจำกลิ่นเมนูนี้ได้เลย!!


กุ้งแม่น้ำตัวใหญ่ ถูกจัดมาคู่กับข้าวสวยกรุ่นๆ และน้ำจิ้มที่คลุกเคล้าอีกสองตัว เชฟบอกว่า อยากทานแบบไหนตามสบายเลย แต่คุณแม่แนะนำว่า ใส่ข้าวลงจานนี้แล้วคลุกๆ รับรองว่าฟิน


คุณคะ กลืนน้ำลายตามได้เลยค่ะ ขอยกให้เป็นทีเด็ดในครั้งนี้!!


จานสุดท้าย ราดหน้าแบบโบราณ ที่หาทานได้ยากแล้ว เพราะใส่น้ำพริกเป็นส่วนผสมด้วย รสชาติใหม่ที่คนรุ่นหลังๆไม่คุ้นเคยแน่นอน


ปิดท้ายด้วยขนมที่เชฟครีเอทขึ้นมาเอง รสชาติแปลกใหม่ แบบขิงๆ


ปิดท้ายกันอีกทีกับของติดมื้อกลับบ้าน ไม่บอกว่าเป็นอะไร แต่แนะนำว่าเปิดแล้วให้ชวนคุณพ่อคุณแม่ทานด้วย พวกเขาจะบอกลูกๆอย่างเราเอง ว่าเมนูนี้คืออะไร แถมยังเล่าต่ออีกว่าสมัยก่อนใครในบ้านเราชอบกิน


เป็นการรีวิวที่ไม่ขอลงรายละเอียดอะไรมาก เพราะเราอยากให้ทุกคนไปฟังเชฟติ๊ก และคุณพ่อ คุณแม่เล่าให้ฟังกัน มันอบอุ่นและเป็นฟีลลิ่งที่ดีมากค่ะ จะได้สนุกและประทับใจเหมือนๆกับกวางในครั้งนี้ด้วย ถามว่ามื้อนี้เห็นเสิร์ฟหลายจาน ราคาเท่าไหร่? จะบอกว่าราคาคนละ 1,800 บาทเท่านั้น คุ้มจนแอบบอกเชฟว่าคิดราคาสูงกว่านี้ก็ยังได้เลย แถมยังส่วนตัวและสบายแบบไม่เกร็ง มันคือสิ่งที่เราๆอยากได้เวลาไปทานอาหาร แล้วเชฟก็จัดให้แบบสบายๆไปเลย เพราะนี่คือบ้านเขาเอง


ถือว่ามื้อพิเศษในครั้งนี้เป็นการเปิดประสบการณ์การทานอาหาร ที่ซ่อนความทรงจำของผู้ทำและผู้ทานในความหมายที่แลกเปลี่ยนประสบการณ์ร่วมกัน และรสชาติใหม่ในการตีความใหม่ ในความรักที่ส่งต่อจากคุณพ่อคุณแม่ สู่ลูกผู้รักการทำอาหารและรักครอบครัวมากอย่างเชฟติ๊ก 

สำหรับอาหารมื้อนี้ต้องจองล่วงหน้า แว่วมาว่าตอนนี้จะต้องจองกันข้ามปี หรือจะเช็กให้ชัวร์ก็ไปที่เพจเขา https://www.facebook.com/keowstable/ แล้วถามคิวกันได้ เชฟรับสัปดาห์ละ 1 โต๊ะเท่านั้น และไม่เกิน 6 ที่ เป็นส่วนตัว มีที่จอดรถค่ะ

อร่อย อบอุ่น คุ้มค่า ประทับ..ใจ เป็นคำจำกัดความของ Keow's Table : )

ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านค่ะ
https://www.facebook.com/jazzykwangandfriends
http://www.jazzykwang.com
ชื่อสินค้า:   Keow's Table
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่